เจดีย์ทราย ตุงสงกรานต์ สัญลักษณ์ความรักความศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัย
เจดีย์ทราย เจดีย์แห่งความรักความศรัทธาเลื่ อมใสในพระรัตนตรัย
ทรายริมแม่น้ำที่ถูกน้ำพัดมาติ ดหาด ทับถมจนกลายเป็นชายหาด บางหาดเป็นทรายที่สะอาด งดงามสวยสดใส
ทรายที่กองไว้เป็นกอง ๆอาจจะไม่มีความสำคัญ แต่ผู้แสวงหาบุญเห็นความสำคั ญของทราย
ในช่วงประเพณีสงกรานต์ ชาวล้านนาปักตุงช่อมงคล 108 เพื่อต้อนรับเถลิงศกเข้าสู่ปีใหม่ วันถัดไปจะเป็นการร่วมกันก่ อพระเจดีย์ทรายเพื่อถวายเป็นพุ ทธบูชา
ทรายริมแม่น้ำที่ถูกน้ำพัดมาติ
ทรายที่กองไว้เป็นกอง ๆอาจจะไม่มีความสำคัญ แต่ผู้แสวงหาบุญเห็นความสำคั
ในช่วงประเพณีสงกรานต์ ชาวล้านนาปักตุงช่อมงคล 108 เพื่อต้อนรับเถลิงศกเข้าสู่ปีใหม่ วันถัดไปจะเป็นการร่วมกันก่
ตุงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญเพื่ อนำมาปักถวายเป็นพุทธบูชาต่ อพระพุทธเจ้าทั้ง 5พระองค์ และแสดงถึงความกตัญญูต่อบรรพบุ รุษที่ล่วงลับไป ชาวล้านนามีความเชื่อว่าชายตุ งยิ่งยาวยิ่งทำให้เกิดอานิสงส์ ของบุญมากขึ้น ชายตุงจะตวัดให้ดวงวิญญานที่ ตกนรกขึ้นสู่สรวงสวรรค์
การก่อเจดีย์ทราย มักจะทำในช่วงสงกรานต์เพราะถื อว่าเวลาเข้าวัดทรายจะติดเท้ าออกไปด้วยถือว่าเป็นการทำบาป ดังนั้นจึงขนทรายมาไว้ที่ วัด
คติทางอาณาจักรพุกามที่กล่าวถึ งการตั้งจิตอธิษฐานของไก่อันเป็ นตำนานเจดีย์ชเวดากอง
ไก่มีความปรารถนาจะเป็นพระพุ ทธเจ้า พระพุทธเจ้าทีปังกรได้แนะนำให้ ไก่สร้างเจดีย์ทรายที่ริมหาด ไก่จึงเขี่ยทรายกองเป็นเจดีย์ ทราย และพูดว่าอยากเป็นพระพุทธเจ้า สัตว์ในลำดับต่อไป อันประกอบไปด้วย นาค เต่า โค และ ราชสีห์ (ในบางตำนานบอกว่าเป็นนายพราน) มาช่วยกันก่อเจดีย์ทรายจนสำเร็จ ต่อมาได้มาเกิดเป็นไข่ทั้ ง 5 ใบของพ่อแม่กาเผือก อันเป็นต้นตำนานการทานตุง หรือการถวายธง
ทั้ง 5ได้มาบังเกิดเป็นพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ในภัทรกัปนี้ โดยที่ตุงมีสัญลักษณ์ต่าง ๆแทนพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์
การก่อเจดีย์ทรายมี หลายตำนานในตำนานของล้านนาที่ จารึกในคัมภีร์ใบลานกล่าวว่า ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้ากำเนิดเป็ นชายสามัญ มีนามว่าติสสะเป็นผู้ที่ขยันขันแข็ง มีธรรมะประจำใจ วันหนึ่งได้ออกเดินทางไปหาฟืนไปเจอหาดทรายที่มีทรายสวยงามมีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า จึงนำทรายมาก่อเป็ นพระเจดีย์ ฉีกเอาเสื้อที่สวมอยู่มาพันกั บปลายไม้ทำเป็นยอดธงปักที่เจดี ย์ทราย และอธิษฐานขอเป็นพระพุทธเจ้าเพื่ อมาโปรดสัตว์ให้พ้นจากกองทุกข์ ทั้งปวง
ในคัมภีร์พระไตรปิฎก เรื่อง ปุฬินุปปาทกเถราปทาน กล่าวถึงอานิสงส์ของการก่อเจดี ย์ทรายด้วยความเลื่อมใสศรัทธา พระปุฬินุปปาทกได้นำทรายมาก่อเป็นเจดีย์ทรายและได้เอาดอกไม้นานาชนิดมาบู ชาพระเจดีย์นั้นพร้อมทั้งแนะนำผู้เป็นศิษย์ทั้ งหลายให้เคารพเลื่อมใสในพระพุ ทธเจ้าทั้งหลายด้วยเหตุนั้นเมื่อละจากการเป็นมนุษย์ในภพนั้น ท่านได้ไปเทวโลก18กัป ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 500 ครั้ง ในชาติสุดท้ายท่านได้มาเป็นพุ ทธสาวกและเข้าสู่พระนิพพานอันเป็นแดนแห่งความสุขนิรันดร์ในที่สุด
ประเพณีการขนทรายเข้าวั ดของชาวพุทธล้านนาในช่ วงเทศกาลสงกรานต์ เริ่มต้นในวันที่ 14 เมษายน ในบางพื้นที่อาจะเริ่มต้นในวั นที่ 13 เมษายน จนถึง 15 เมษายน
เมื่อก่อพระเจดีย์ทรายเรียบร้ อยแล้ว จึงมีการปักตุงนักษัตร หรือตุงสิบสองราศี อันเป็นตัวแทนสมาชิกในครอบครั วทั้งที่มีชีวิตอยู่และล่วงลั บไป การถวายตุงนักษัตรถือว่าได้บุ ญมาก เสมือนได้ถวายเป็นพุทธบูชาต่ อพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์ ทำให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญก้าวหน้า ปลอดภัยจากบาปทั้งปวง สำหรับผู้ที่ล่วงลับไปที่ต้องตกนรกเพราะทำบาปเมื่อครั้งที่มีชีวิตอยู่ชายตุงจะตวัดดวงวิญญานขึ้นสู่ สวรรค์ ผู้ที่ถวายเมื่อสิ้นอายุขัยดวงวิญญานจะได้ไปอยู่กับพระธาตุ ตามชะตาปีเกิด
เมื่อก่อพระเจดีย์ทรายเรียบร้
การปักตุงไส้หมู เป็นการเคารพต่อพระรัตนตรัย ตุงไส้หมูมีลักษณะคล้ายกับดอกบั ว พระปราค์หรือเจดีย์ เป็นตุงที่ขาดไม่ได้ในประเพณี สงกรานต์ ใช้ปักบนเจดีย์ทราย
การชักชวนสมาชิกในครอบครัว และทุกครอบครัวในชุมชน ขนทรายเข้าวัด ปักตุงเพื่อถวายเป็นพุทธบูชานั้ น นอกจากจะเป็นการเชื่อมความสัมพั นธ์ ระหว่างบ้าน -ชุมชน-วัด ยังก่อให้เกิดความสามัคคี รักใคร่ กลมเกลียวอีกด้วย
**สรุป
กิจกรรมการขนทรายเข้าวัด การถวายตุงไส้หมูและตุงนักษั ตรในช่วงประเพณีสงกรานต์ก่อให้ เกิดหลักธรรมที่มีผลต่อตนเอง ต่อครอบครัว ต่อชุมชนและวัด ดังนี้
- เกิดความเคารพในพระรัตนตรัย อันประกอบไปด้วยพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
- เป็นการแสดงถึงความกตัญญูที่มี ต่อพระรัตนตรัย ต่อบรรพบุรุษ และผู้ที่มีพระคุณ
-กิจกรรมดังกล่าวทำให้เกิ ดคารวะธรรมที่ทำให้เกิ ดความเคารพต่อพระรัตยตรัย ต่อบรรพบุรุษ ต่อตนเองและผู้ที่อยู่รอบข้าง ทำให้สังคมเป็นสุข
- เกิดความสามัคคีระหว่างสมาชิ กในครอบครัว ชุมชน และ วัด ทำให้เกิดการพัฒนาสังคมชุมชน
- เป็นการสืบสานอายุพระพุ ทธศาสนาด้วยการแทรกกิ จกรรมการขนทรายเข้าวัด การถวายตุงเพื่อเป็นการทำบุญ
คำสำคัญ:เจดีย์ทราย ตุง สงกรานต์
References :
พระไตรปิฎกเล่มที่ 33 พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ 25 [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย อปทาน ภาค 2 พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
เรื่อง ปุฬินุปปาทกเถราปทาน ประวัติในอดีตชาติของพระปุฬินุ ปปาทกเถระ อานิสงส์การบูชาเจดีย์ทราย
พระไตรปิฎกเล่มที่32 พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ 24[ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย อปทาน ภาค 2
เรื่อง อุปวาณเถราปทาน ประวัติในอดีตชาติของพระอุ ปวาณเถระ อานิสงส์การยกธง
http://lannamanuscripts.net/ th/manuscripts
คัมภีร์ใบลานอานิสงส์เจดีย์ ทราย วัดป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน จารเมื่อ จ.ศ.1294
มณี พยอมยงค์
พระไตรปิฎกเล่มที่ 33 พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ 25 [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย อปทาน ภาค 2 พุทธวังสะ-จริยาปิฎก
เรื่อง ปุฬินุปปาทกเถราปทาน ประวัติในอดีตชาติของพระปุฬินุ
พระไตรปิฎกเล่มที่32 พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ 24[ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย อปทาน ภาค 2
เรื่อง อุปวาณเถราปทาน ประวัติในอดีตชาติของพระอุ
http://lannamanuscripts.net/
คัมภีร์ใบลานอานิสงส์เจดีย์
มณี พยอมยงค์
2529
.ประเพณีสิบสองเดือนล้ านนาไทย :เชียงใหม่ ส.ทรัพย์การพิมพ์
สากล จริยวัฒนานนท์.รศ.ดร
สากล จริยวัฒนานนท์.รศ.ดร
2550
บทความ:มองภูมิปัญญาผ่านตุ ง.วารสารพัฒนาสังคม ปีที่ 8 ฉบับที่ 2
สาธุ สาธุ สาธุ
ตอบลบ